โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงถนนโดยการเสริมผิวจราจรด้วยแอสฟัลท์ติกคอนกรีต บนถนนลาดยางเดิม ช่วงอบจ. สายห้วยราช - ระโยงใหญ่ ถึง สามแยก บ้านนายสมาน กะสินรัมย์ บ้านกราด หมู่ที่ 8 โดยมีรายละเอียดงานดังนี้:

1. งานคันทางเดิม: กวาดพื้นผิวเดิมให้สะอาด ปรับระดับพื้นทางเดิมที่ชำรุดด้วยแอสฟัลท์ติกคอนกรีต ก่อนทำการ Tack Coat
2. งานเสริมผิวจราจรแอสฟัลท์ติกคอนกรีต: เสริมผิวแอสฟัลท์ติกคอนกรีต กว้าง 5.00 เมตร ยาว 610.00 เมตร หนา 0.04 เมตร (พื้นที่รวมไม่น้อยกว่า 3,050 ตร.ม.) และตีเส้นจราจรตามรูปแบบที่กำหนด
3. งานติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์โครงการก่อสร้าง: ติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์โครงการ ขนาด 1.20 x 2.40 เมตร จำนวน 1 ป้าย ในจุดที่มองเห็นได้ชัดเจน
4. งานติดตั้งป้ายโครงการก่อสร้าง: ติดตั้งป้ายโครงการก่อสร้าง ขนาด 1.20 x 2.40 เมตร จำนวน 1 ป้าย ในจุดที่มองเห็นได้ชัดเจน

ผู้รับจ้างต้องจัดหาวิศวกรโยธา ระดับภาคีวิศวกร หรือ ภาคีพิเศษ เพื่อควบคุมงาน และใช้วัสดุภายในประเทศไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 และใช้เหล็กภายในประเทศไม่น้อยกว่าร้อยละ 90

This project involves improving the road by overlaying it with asphaltic concrete on the existing asphalt road, specifically the section from the Provincial Administration Organization road, Huai Rat - Rayong Yai, to the Sam Yaek Ban Nai Saman Kasinram, Ban Grat, Village No. 8. The main tasks include:

1. Existing Roadbed Work: Cleaning the existing surface and leveling damaged areas with asphaltic concrete before tack coating.
2. Asphaltic Concrete Overlay: Applying an asphaltic concrete overlay with a width of 5.00 meters, a length of 610.00 meters, and a thickness of 0.04 meters (total area not less than 3,050 sq.m.), and applying traffic markings as specified.
3. Installation of Project Public Relations Sign: Installing one project public relations sign with dimensions of 1.20 x 2.40 meters in a clearly visible location.
4. Installation of Project Sign: Installing one project sign with dimensions of 1.20 x 2.40 meters in a clearly visible location.

The contractor must provide a civil engineer at the Associate Engineer or Professional Engineer level to supervise the work, and use materials manufactured domestically at a rate of not less than 60 percent, and use domestic steel at no less than 90 percent.