• ปรับปรุงผิวจราจรให้มีความสะดวกและปลอดภัยในการสัญจร
• ทำให้ผิวจราจรมีความเรียบและสม่ำเสมอ
• แก้ไขปัญหาผิวจราจรชำรุด เช่น การยุบตัวหรือเป็นแอ่ง

• จัดทำแผนการปฏิบัติงานและส่งให้ผู้ว่าจ้างภายใน 7 วันหลังลงนามสัญญา
• ประสานงานกับผู้ควบคุมงานเพื่อจัดส่งวัสดุงานทางภายใน 15 วันหลังลงนามสัญญา
• ทำ Tack Coat โดยใช้ยางแอสฟัลท์ชนิด CRS-2 ปริมาณ 0.10-0.30 ลิตร/ตารางเมตร
• ทำความสะอาดพื้นผิวที่จะปูแอสฟัลท์ติกคอนกรีตให้ปราศจากฝุ่นและวัสดุที่ไม่พึงประสงค์
• ปูผิวทางแอสฟัลท์ติกคอนกรีตให้ได้ความหนาตามข้อกำหนด
• บดอัดผิวทางด้วยรถบดล้อเหล็กและรถบดล้อยางให้ได้ความหนาแน่นตามที่ต้องการ
• ตรวจสอบความเรียบ ความแน่น และความสม่ำเสมอของผิวทาง
• แก้ไขความเสียหายที่เกิดขึ้นบนผิวทาง
• อำนวยการและควบคุมการจราจรระหว่างการก่อสร้าง
• ตีเส้นแบ่งทิศทางจราจรและเส้นขอบทาง
• ติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์โครงการและป้ายแสดงสาเหตุความล่าช้า (หากมี)

• แผนการปฏิบัติงาน
• ผิวจราจรแอสฟัลท์ติกคอนกรีตที่ได้มาตรฐานตามข้อกำหนด
• ผิวจราจรที่มีความเรียบ ความแน่น และความสม่ำเสมอ
• เส้นแบ่งทิศทางจราจรและเส้นขอบทาง
• ป้ายประชาสัมพันธ์โครงการ
• ป้ายแสดงสาเหตุความล่าช้า (หากมี)

• ผู้รับจ้างจะต้องส่งแผนการปฏิบัติงานภายใน 7 วัน นับถัดจากวันลงนามในสัญญา
• ผู้รับจ้างจะต้องประสานกับผู้ควบคุมงานจัดส่งวัสดุงานทางภายใน 15 วัน นับถัดจากวันลงนามในสัญญา

ไม่ได้ระบุไว้ในเอกสาร

• ผิวทางแบบ ASPHALTIC CONCRETE หนา 5 ซม. อ้างอิง มทช.498.239-2545 มทร.227-2548
• TACK COAT อ้างอิง มทช.227-2545
• การตีเส้นจราจรบนผิวทาง อ้างอิง แบบมาตรฐานงานตีเส้นจราจรและเครื่องหมายจราจร " 16-3-110(1) - 1104)
• ยางแอสฟัลท์ชนิด CRS-2 ปริมาณการใช้ 0.10-0.30 ลิตร/ตารางเมตร
• อุณหภูมิของส่วนผสมแอสฟัลท์ติกคอนกรีตเมื่อมาถึงสถานที่ก่อสร้างต้องมีอุณหภูมิไม่น้อยกว่า 132 °C และเมื่อปูพื้นทางแล้วจะต้องมีอุณหภูมิ 121-150 °C
• ความหนาแน่น (Density) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 88 ของค่า Marshall Density
• เส้นแบ่งทิศทางจราจใช้สีเหลือง ขนาดกว้าง 10 ซม.
• เส้นขอบทาง ให้ใช้เส้นทึบสีขาว ขนาดกว้าง 10 ซม
• เส้นทาบนผิวจราจรที่มีผิวเรียบทั้งหมด (เอฟซีล, แอสฟัลท์ติกคอนกรีต) ให้ใช้สีเทอร์โมพลาสติก ตาม มอก, 542 หนาไม่น้อยกว่า 3 มม.

ไม่ได้ระบุไว้ในเอกสาร

• ถาม: ต้องใช้ยางแอสฟัลท์ชนิดใดในการทำ Tack Coat และต้องใช้ในปริมาณเท่าใด?

  • ตอบ: ต้องใช้ยางแอสฟัลท์ชนิด CRS-2 ในปริมาณ 0.10-0.30 ลิตร/ตารางเมตร

  • ถาม: อุณหภูมิของส่วนผสมแอสฟัลท์ติกคอนกรีตที่มาถึงสถานที่ก่อสร้างต้องมีอุณหภูมิเท่าใด?

  • ตอบ: ต้องมีอุณหภูมิไม่น้อยกว่า 132 °C และเมื่อปูพื้นทางแล้วจะต้องมีอุณหภูมิ 121-150 °C

  • ถาม: ต้องใช้วัสดุก่อสร้างที่ผลิตในประเทศในสัดส่วนเท่าใด?

  • ตอบ: ต้องใช้วัสดุก่อสร้างหรือครุภัณฑ์ที่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตภายในประเทศ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ของมูลค่าวัสดุก่อสร้างที่ใช้ในโครงการก่อสร้างนี้

  • ถาม: หากงานก่อสร้างมีวัสดุก่อสร้างที่เป็นเหล็ก จะต้องใช้วัสดุที่ผลิตภายในประเทศในสัดส่วนเท่าใด?

  • ตอบ: จะต้องใช้วัสดุก่อสร้างที่เป็นเหล็กซึ่งเป็นสินค้าผลิตภายในประเทศ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของปริมาณงานเหล็กที่ใช้ตามสัญญาก่อสร้างนี้

  • ถาม: โรงงานผสมแอสฟัลท์ติกคอนกรีตต้องมีคุณสมบัติอย่างไร?

  • ตอบ: ระยะขนส่งจากโรงงานผสมถึงกึ่งกลางของโครงการก่อสร้าง ต้องมีระยะทางไม่เกิน 110 กิโลเมตร และต้องมีกําลังผลิตไม่น้อยกว่า 50 ตัน/ชั่วโมง

  • ถาม: ความหนาแน่นของผิวทางแอสฟัลท์ติกคอนกรีตต้องมีค่าเท่าใด?

  • ตอบ: ความหนาแน่น (Density) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 88 ของค่า Marshall Density

  • ถาม: ต้องตีเส้นจราจรบนผิวทางอย่างไร?

  • ตอบ: เส้นแบ่งทิศทางจราจรใช้สีเหลือง ขนาดกว้าง 10 ซม. และเส้นขอบทาง ให้ใช้เส้นทึบสีขาว ขนาดกว้าง 10 ซม

  • ถาม: ต้องทำอย่างไรหากพื้นทางเดิมเกิดการยุบตัว (Depression) หรือเป็นแอ่งเฉพาะแห่ง?

  • ตอบ: หากแข่งลึกไม่เกิน 30 มิลลิเมตรอาจแยกปูเสริมเพื่อปรับระดับเฉพาะส่วนที่ยุบตัว หรือแข่งก่อน หรือจะปูรวมไปพร้อมกันกับการปูชั้นทางแอสฟัลติกคอนกรีตก็ได้

  • ถาม: ต้องทำอย่างไรหากแข่งลึกเกิน 50 มิลลิเมตร?

  • ตอบ: จะต้องปูเสริมปรับระดับเฉพาะส่วนที่ยุบตัวก่อน โดยให้ปูเป็นชั้นๆ หนาไม่เกินชั้นละ 50 มิลลิเมตร

  • ถาม: จะต้องมีการตรวจสอบอะไรบ้างหลังจากก่อสร้างแอสฟัลท์ติกคอนกรีตแล้ว?

  • ตอบ: จะต้องตรวจสอบลักษณะผิว (Surface Texture) ความหนาของผิวทาง และความแน่น (Density)